เมนู

บิณฑบาต 1 เสนาสนะ 1 เภสัช 1 ครั้นจะบริโภคก็ต้องปัจจเวกขณะพิจารณาเสียก่อนจึง
บริโภค ประการ 1 พระโพธิสัตว์ทั้งหลายเมื่อจะจุติก็พึงแลดูก่อนประการ 1 สิริทั้งหมดเป็น 8
ประการด้วยกัน ยถา มีครุวนาฉันใด พระบรมโพธิสัตว์เมื่อจะมาตรัสในชมพูทวีปนี้เล่า
พระองค์เจ้ารู้อยู่ว่าจะเกิดในสำนักพระพุทธบิดา พระพุทธมารดา แต่ทว่าต้องพิจารณาดูตระกูล
พระพุทธบิดา พระพุทธมารดา เพื่อจะให้รู้ว่าเป็นขัตติยมหาศาลหรือ หรือว่าพราหมณมหาศาล
ตถา เปรียบปานฉันนั้นแล ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี ได้ทรงฟังพระนาคเสนวิสัชนาดังนี้ ก็สิ้นสงสัย
ซ้องสาธุการโดยนัยหนหลัง
โพธิสัตตัสส ธัมมตาปัญหา คำรบ 2 จบเพียงนี้

อัตตนิปาตนปัญหา ที่ 3


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี จึงมีพระราชปุจฉาถามพระนาคเสนสืบ
ไปว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ภาสิตํปิ เหตํ ภควตา คำนี้ สมเด็จพระ
มหากรุณาเจ้ามีพระพุทธฎีกาตรัสว่า ภิกฺขเว ดูรานะภิกษุทั้งหลาย ท่านอย่าพึงให้กายตัว
ของท่านตกไปโดยอธรรม แม้ท่านจะปรารถนาที่จะให้กายตัวของท่านตกไปนั้น พึงกระทำให้
ควรแก่ธรรม ตรัสฉะนี้แล้ว ปุน จ ครั้นนานมาใหม่เล่า สมเด็จพระมหากรุณาเจ้า เมื่อมีพระ
พุทธฎีกาแก่สาวกทั้งหลาย กลับทรงแสดงธรรมแนะนำให้ตัดความเกิดความแก่ความเจ็บความ
ตายเสีย สาวกรูปใดก้าวล่วงความเกิดความแก่ความเจ็บความตายได้ ก็ตรัสสรรเสริญ
สาวกรูปนั้นยิ่งนักหนา โยมมารำพึงดูคำทั้งสองนี้ไม่ต้องกัน คำเดิมนั้นว่าอย่างให้ตนตกไป คำที
หลังสอนให้ตัดความเกิดความแก่ความเจ็บความตาย ปริศนานี้นับในอุภโตโกฏิ จงโปรดวิสัชนา
ให้โยมแจ้งก่อน
พระนาคเสนถวายพระพรวิสัชนาว่า ภาสิตํ เจตํ มหาราช ดูรานะบพิตรพระราช-
สมภาร สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้ามีพระพุทธฎีกาตรัสว่า อย่าพึงทำตนให้ตกไปโดยอธรรม
พึงให้ตกไปโดยธรรม แล้วทรงแสดงธรรมแนะนำให้ตัดความเกิดความแก่ความเจ็บความตาย
เสียนั้นมีเหตุอยู่ บางแห่งพระบรมครูก็ทรงห้าม บางแห่งก็ทรงชักนำตามควรแก่เหตุ มหาราช
ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร ธรรมดาว่าท่านผู้มีศีลย่อมดับพิษแห่งกิเลส อคทสโม